โดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์

โดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์ รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของคนยุคปัจจุบันเพราะว่าการเดินทางไป ประกอบธุรกิจการงานมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์นี้ ตัวทนายความเองขาดรถยนต์ยังไม่ได้ หากทนายนั่งรถเมล์ไปศาลก็คงจะผิดนัดอยู่ตลอดเพราะมันใช้เวลานาน

รถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีอายุการใช้งานยาวนานยั่งยืนเหมือนกับบ้านเรือน เพราะว่ารถยนต์อายุประมาณ 10 ปีก็ต้องเปลี่ยนอีกแล้วเพราะว่ามันเสื่อมสภาพได้เร็วมากโดยหักวิ่งรถยนต์โดย ไม่มีการดูแลรักษาที่ดีพอ จึงทำให้ประชาชนต้องทำการซื้อรถยนต์อยู่เรื่อยไปคิดภาพรวมอาจจะมีมูลค่า มากกว่าบ้านที่ตนเองอยู่เสียอีก

ในบางเวลาเศรษฐกิจไม่ดีการเงินไม่คล่องตัวท่านที่กำลังผ่อนรถยนต์อยู่กับ ไฟแนนซ์ก็อาจจะมีปัญหาขาดการส่งค่าผ่อน ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไปจะเกิดปัญหาขึ้นทันที (ดูตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์) เมื่อไฟแนนซ์มีหนังสือบอกเลิกสัญญา จากนั้นไฟแนนซ์มาตามยึดรถยนต์หรือโทรมาจิกให้ส่งค่างวดที่คงค้าง และท้ายที่สุดถ้ายังไม่มีอะไรคืบหน้า เกิดขึ้น ก็จะมีการฟ้องศาลเรื่องรถยนต์นั่นเองโดยบริษัทไฟแนนซ์เป็นโจทก์ ฟ้องร้องทางคดีแพ่งกับท่านในข้อหาผิดสัญญาเช่าซื้อ

ปรึกษาคดี โปรด คลิ๊ก

ทางแก้ปัญหา เรื่องรถยนต์

ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ควรที่จะวางแผนว่าถ้าเราผ่อนรถยนต์ไม่ไหวจริงๆ ทางเบื้องต้น ให้คำนวณดูว่าเราผ่อนรถยนต์ไปแล้วกี่บาท แล้วรถยนต์คันนี้ในราคามือสองและปีที่เราใช้อยู่ขายกันอยู่ในตลาดกี่บาท โดยอาจจะไปดูที่ตลาดรถหรือวันทูคาร์ดอทคอมก็ได้ หรือไม่ก็สอบถามราคาซื้อเข้าของผู้ค้ารถยนต์มือสองก็ได้(ปกติมักจะราคาต่ำ กว่าราคาซื้อขาย) เพื่อดูว่าหากเราผ่อนไม่ไหวจริงๆเราขายรถคันนี้ไปแล้ว จะเหลือเงินกี่บาท (แนวคิดคือพยายามแก้ไขปัญหาก่อนที่จะถูกฟ้องเป็นคดี เพราะว่าเมื่อถูกฟ้องเป็นคดี จะมีค่าใช้จ่ายอื่นตามมาทำให้ท่านเสียผลประโยชน์มากขึ้น) หากรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์คันใหญ่ท่านอาจจะดาวน์ไซส์มาใช้รถยนต์คันเล็กลงก็ ได้ในวงเงินที่ท่านสามารถรับได้ และในวัตถุประสงค์ที่ท่านพอได้ ก็จะสามารถทําให้ท่านดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยยังพอมีรถยนต์ใช้งานอยู่

“เรื่องราวต่างๆ มีรายละเอียดปลีกย่อย และความซับซ้อน บทความที่นำเสนอบนเว็บเป็นเพียงความรู้เบื้องต้น เราไม่สามารถบอกได้ทุกเรื่อง ทางที่ดีควรปรึกษากับทนายโดยตรง เป็นผลดีกับท่านมากกว่า”
ทนายความ

ถูกฟ้องโดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์ เขาเรียกอะไรได้บ้าง

1. หากขณะฟ้องยังไม่ได้ส่งมอบรถยนต์ ท้ายฟ้องจะขอให้ส่งมอบคืนรถยนต์หรือใช้ราคารถยนต์นั้น
2. ขอให้ชำระค่างวดที่คงค้างก่อนบอกเลิกสัญญา
3. ชำระค่าขาดประโยชน์เป็นรายเดือน หลังจากบอกเลิกสัญญาแล้ว จนกว่าท่านจะส่งมอบรถยนต์ หรือชำระราคาค่ารถยนต์นั้นเสร็จสิ้น

4. กรณีที่ท่านส่งมอบรถยนต์คืนแล้ว บริษัทไฟแนนซ์นำรถยนต์ไปขาย และได้เงินไม่พอใช้หนี้ ท่านอาจถูกฟ้องให้เรียกชำระเงินค่าส่วนต่างอีกด้วย
5. ค่าทนายความ ค่าติดตามทวงถาม โจทก์เรียกเอากับจำเลยแน่นอน

 

ไม่อยากโดนฟ้องศาลเรื่องรถยนต์ ทำไงดี

วิธีที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นวิธีการลดความเสี่ยงเท่านั้น
1. รถยนต์ที่จะซื้ออย่าซื้อแพงเกินไป ประเมินเงินผ่อนดีๆ อย่าประมาทอย่าคิดว่าผ่อนไหว
2. ยอดผ่อนเอาให้ต่ำไว้ เมื่อเทียบกับรายได้ของเรา
3. ถ้าพอจะซื้อรถยนต์ รุ่นที่ต่ำลงมาหรือเป็นรถมือสองแต่ซื้อด้วยเงินสดได้จะดีมาก (เงินสด 4-5 หาซื้อรถยนต์มือสองขับได้ แต่ถ้าซื้อรถยนต์มือหนึ่ง เฉพาะเงินดาวน์อาจจะต้องมีถึง 2 แสนบาทแล้ว อดทนเก็บเงินสักนิด แต่ดอกสักบาทท่านก็ไม่ต้องเสีย)

4. วินัยการเงินเป็นสิ่งสำคัญ บริหารการเงินให้ดี ยิ่งเฉพาะรายได้น้อยยิ่งต้องละเอียด
5. รถยนต์ถ้าผ่อนไม่ไหวจริงๆ พยายามอย่าให้ไฟแนนซ์มายึด รีบขายก่อน สถานการณ์ของเราจะดีกว่า แล้วจะได้มีเงินเหลือไปซื้อรถคันที่ราคาถูกหรือเล็กกว่า มาขับก็ได้  (ดู สัญญาซื้อขายรถยนต์)

นี้เป็นหนึ่งในแนวทางในการแก้ไข ก่อนที่จะถูกบริษัทไฟแนนซ์  ฟ้องศาลเรื่องรถยนต์


อ่านบทความตามหมวดหมู่ :  แพ่งอาญาทั่วไปศาลสัญญา