เมื่อเรามีการโอนเงินผิดบัญชี ไปยังบัญชีผู้อื่นซึ่งเราไม่รู้จัก และไม่ได้มีนิติกรรม หรือมีหนี้สิ่งใดที่ต้องจ่ายต่อกัน อันดับแรกเราจะต้องดำเนินการคือ
2. ลงบันทึกประจำวันก่อน ว่ามีการโอนเงินผิดบัญชี (ขั้นตอนนี้ยังอาจแจ้งความดำเนินคดีไม่ได้ เพราะปลายทางเขายังไม่รู้ตัว ว่ามีเงินเข้ามาหรือไม่อย่างไร)
3. ถ้าเมื่อปลายทาง รู้ตัวแล้วว่ามีเงินโอนเข้าไปผิด และทำการกดเงินนั้นออกมา ถือว่ามีเจตนาแล้ว เป็นการยักยอกทรัพย์
4. ขั้นตอนนี้จะสามารถแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาได้ เป็นข้อหายักยอกทรัพย์ (ป.อาญา ม.352 วรรค2)
บทความน่าอ่าน
สำหรับเงื่อนไขในการโอนเงินผิดบัญชีนั้น จะต้องเป็นการโอนเลขบัญชีสลับกันเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าโอน หรือใส่เลขบัญชีผิดจำนวนมาก หรือดูบัญชีผิด ลักษณะแบบนั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่า เนื่องจากไม่รู้ว่าผู้โอนกับผู้รับโอนมีนิติกรรมหรือมีเจตนาอะไรต่อกันหรือไม่ การแก้ไขกรณีนี้ อาจยุ่งยากมากกว่า
เมื่อโอนเงินผิดบัญชีแล้ว แล้วเรามีหลักฐาน การลงบันทึกประจำวันในเบื้องต้น ไปติดต่อธนาคาร ธนาคารจะทำการติดต่อเจ้าของบัญชี เพื่อทำการดึงเงินกลับดังที่กล่าวไปแล้ว ซึ่งหากเป็นธนาคารหรือแบงค์เดียวกันก็จะง่ายในการประสานงาน แต่หากเป็นต่างธนาคารจะยุ่งยากและต้องใช้เวลานิดนึง ในขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาและรอก่อน ให้รู้ว่าเจ้าของบัญชีปลายทางยอมคืนเงินที่โอนผิดไปหรือไม่อย่างไร
หาก เจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินรู้แล้ว ว่ามีโอนเงินผิดเข้ามา และไม่ยินยอมคืนเงินให้เรา จึงถือว่ามีเจตนายักยอกทรัพย์ (ตามข้อ3) จากนั้นตามข้อ 4 จึงแจ้งความดำเนินคดีอาญาต่อไป
กรณีที่มีผู้อื่นแจ้งกับเราว่ามีการโอนเงินผิดบัญชีมายังบัญชีของเรา
1. เพื่อความปลอดภัยเราควรไปลงบันทึกประจำวันไว้ (บันทึกประจำ ไม่ใช่แจ้งความดำเนินคดีอาญานะ)
2. ขั้นตอนการโอนเงินคืนติดต่อกับธนาคารดีที่สุด เพื่อเป็นหลักฐานต่างๆ
3. เพื่อป้องกันเพราะว่าหากบัญชีนั้นเป็นบัญชีม้าหรือเป็นบัญชีมิจฉาชีพ และเราโอนเงินกลับไป เท่ากับไปเชื่อมโยงกับบัญชีเขาเหล่านั้น อาจมีปัญหากับเราได้
4. การโอนเงินคืนอย่าโอนโดยพละการ ติดต่อผ่านธนาคาร จะได้มีหลักฐานว่าเราบริสุทธิ์ใจ
