ถ้าท่านทราบขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาจะทำให้หรือว่าคดีนี้อยู่ในลำดับใด หรืออยู่ในขั้นตอนใดเมื่อมาคุยกับทนายจะเข้าใจง่ายขึ้น
คดีอาญานั้นมีแนวทางดำเนินคดี 2 แนวทางคือ
1. ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ จากนั้นตำรวจทำสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการ พนักงานอัยการทำการยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป โดยตำรวจจะออกหมายเรียก ให้ผู้ต้องหาเข้ามาสอบปากคำ
2. ผู้เสียหายฟ้องตรงต่อศาล โดยศาลจะรับเรื่องไว้ก่อน และจะทำการนัดไต่สวนมูลฟ้องเพื่อจะดูว่าคดีมีมูลหรือไม่ หากคดีมีมูลศาลจะประทับรับฟ้อง และจะกำหนดวันนัดสอบคำให้การต่อไป
ท่านจะเห็นว่าการดำเนินคดีอาญามีแนวทางเกิดขึ้นได้ 2 รูปแบบ ดังนั้นจึงต้องรู้ว่า คดีที่ท่านเป็นจำเลยนั้นเป็นแบบที่ 1 หรือแบบที่ 2 จะได้คุยกันได้ถูกต้อง
แบบที่ 1 และแบบที่ 2 นี้มีขั้นตอนแตกต่างกันออกไป แบบที่ 1 อาจจะต้องประกันตัวในวันที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาล หรือหากท่านไม่ไปตามหมายเรียกของพนักงานตำรวจ ท่านอาจถูกออกหมายจับในชั้นตำรวจได้ ซึ่งเมื่อมอบตัวก็ต้องมีการประกันตัว แล้วจะมีความยุ่งยาก
ส่วนแบบที่ 2 ท่านจะต้องประกันตัวในวันหรือก่อนวันนัดสอบคำให้การ นั่นก็คือสารต้องพิจารณาแล้วว่าคดีมีมูลและศาลประทับรับฟ้อง
ที่กล่าวมานี้เป็นขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาในศาลชั้นต้น
สำหรับในศาลชั้นอุทธรณ์เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และท่านประสงค์จะประกันตัวและยื่นอุทธรณ์ ท่านสามารถประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ได้ หลักทรัพย์ประกันตัวที่ใช้ในชั้นอุทธรณ์สอบถามที่ศาลอีกครั้ง
ชั้นฎีกาก็เช่นเดียวกัน
การกระทำความผิดทางคดีอาญาเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นปัญหาที่อยู่กับโลกนี้มานานแสนนานและไม่มีทางที่จะหมดไป